วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
Tangled (ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ)
ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ
เป็น ภาพยนตร์เพลงแนวตลก/เพ้อฝัน สัญชาติอเมริกัน ซึ่งสร้างด้วยคอมพิวเตอร์แอนิเมชัน โดย วอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์
เมื่อ พ.ศ. 2553 และเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันซึ่งฉายในโรงภาพยนตร์เป็นลำดับที่ 50 ของวอล์ดิสนีย์ มีเนื้อหาอิงเทวนิยายเยอรมันเรื่อง ราพันเซล (Rapunzel) ของพี่น้องกริม อย่างหยาบ ๆ และในภาคภาษาอังกฤษ ตัวละครเด่น ๆ นั้นให้เสียงโดย แมนดี มัวร์, ซาชารี เลวี และ ดอนนา เมอร์ฟีย์
จำเดิม
ชื่อภาษาอังกฤษของภาพยนตร์นี้คือ Rapunzel แต่ก่อนออกฉายเล็กน้อย ได้เปลี่ยนเป็น Tangled แทน โดยออกฉายในโรงภาพยนตร์ระบบสามมิติเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 ส่วนในประเทศไทย ฉายเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2554
การจัดสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ใช้เวลาถึงหกปี และแอลเอไทมส์รายงานว่า ใช้ทุนไปราว ๆ สองร้อยหกสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งนับเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ใช้จ่ายเงินไปมากที่สุดทีเดียว
เรื่องย่อ
หยาดแสงอาทิตย์หยาดหนึ่งตกลงสู่พื้นโลก
และงอกงามขึ้นเป็นบุปผาเรืองแสงประกอบด้วยสรรพคุณเยียวยาความป่วยเจ็บบรรดา
มี หญิงชรานางหนึ่ง ชื่อว่า "กอเธล" (Gothel) พบเจอเข้า
จึงใช้มันเพื่อบันดาลให้นางงดงามและเยาว์วัยดุจหญิงสาว
โดยวิธีร้องเพลงมนตร์แก่บุปผานั้นว่า "บุปผาเรืองแสงส่อง เปล่งฤทธาของเจ้า
ช่วยย้อนวันให้เรา คืนสิ่งที่เคยได้ครอง" ("Flower, gleam and glow. Let
your power shine. Make the clock reverse. Bring back what once was
mine.") นางนำสุ่มมาครอบบุปผานั้นเอาไว้เพื่อเก็บไว้ใช้แต่ผู้เดียว
เวลาผ่านมาหลายร้อยปี เกิดมีอาณาจักรขึ้นบริเวณนั้น
ราชินีอันเป็นที่รักแห่งอาณาจักรดังกล่าวประชวรขณะให้ประสูติกาล
ทหารและพลเมืองช่วยกันค้นหาวิธีแก้ไข และพบบุปผานั้นเข้าโดยบังเอิญ
ราชินีทรงได้รับการรักษา และมีประสูติกาลแก่ธิดาพระนามว่า "ราพันเซล"
(Rapunzel) ผู้มีเกศางามดังทอง และบัดนี้
เกศาของพระธิดากลายเป็นแหล่งสรรพคุณวิเศษของบุปผานั้นแทน ในคืนนั้น
กอเธลลักพาพระธิดาไปซ่อนไว้ในหอคอยสูงกลางป่า แล้วเลี้ยงดูประดุจบุตรในอุทร
เพื่อใช้ผมของราพันเซลช่วยให้นางคงความเยาว์วัยและสวยสด นางทราบดีว่า
ถ้าตัดผมของราพันเซลออก ผมนั้นจะเสื่อมสรรพคุณ
และเปลี่ยนจากสีทองเป็นสีน้ำตาลทันที ดังนั้น
นางจึงปล่อยให้เกศาของราพันเซลยาวโดยมิได้ตัดเลย
และมิให้ราพันเซลออกนอกหอคอยเลย ทั้งนี้ ทุก ๆ ปี
ในวันคล้ายวันประสูติของราพันเซล
พระราชาและราษฎรของพระองค์จะปล่อยโคมลอยนับแสนดวงขึ้นสู่ฟ้า
พวกเขาหวังว่าโคมลอยจะนำพาพระธิดาของพวกเขากลับมาอีกครั้ง
ในวันก่อนวันคล้ายวันประสูติปีที่สิบแปดของราพันเซล
เธอขอให้กอเธลอนุญาตให้เธอออกไปดูโคมลอยนอกหอคอย แต่กอเธลไม่อนุญาต
และให้สาเหตุว่า โลกภายนอกมีแต่ภยันตรายและความชั่ว
ขณะเดียวกัน กลุ่มโจรกลุ่มหนึ่ง นำโดย ฟลิน ไรเดอร์ (Flynn Rider)
ชายหนุ่มรูปงาม
ได้โจรกรรมศิราภรณ์ที่สร้างไว้สำหรับเจ้าหญิงผู้หายไปไปจากพระราชวัง
ในระหว่างเหล่าองครักษ์ไล่ตามกลุ่มโจรอย่างติดพันนั้น แม็กซิมัส (Maximus)
ม้าของหัวหน้าองครักษ์ คลาดจากกลุ่มโดยไม่มีผู้ขี่
ม้าแม็กซิมัสจึงออกตามล่าฟลินเอง ในเวลานั้น
ฟลินหลอกเอาศิราภรณ์ไปจากเพื่อนร่วมกลุ่ม
แล้วหนีขึ้นไปซ่อนตัวที่หอคอยของราพันเซลซึ่งเขาพบโดยบังเอิญ
แต่เขาถูกราพันเซลฟาดด้วยกระทะจนสลบไป เธอซ่อนเขาไว้ในตู้เสื้อผ้าของเธอ
แล้วริบศิราภรณ์ไว้
เมื่อกอเธลกลับมา
ราพันเซลขอให้นางไปเก็บเปลือกหอยมาให้เป็นของขวัญวันเกิด
เพื่อนำมาทำสีระบายภาพ กอเธลยอมใช้เวลาเดินทางสามวันไปเอาของขวัญมาให้
ระหว่างนั้น ราพันเซลตกลงกับฟลินว่า ถ้าอยากให้ศิราภรณ์คืน
ให้พาเธอออกไปนอกหอคอย เพื่อไปชมดูเหล่าโคมลอย ที่เธอเข้าใจว่าเป็น
"หมู่ดาว" อันจะปรากฏขึ้นทุก ๆ วันคล้ายวันเกิดของเธอ
ฟลินพยายามให้ราพันเซลเลิกเดินทางแล้วกลับหอคอยไปเสียโดยพาเธอไปค้างแรมที่
ร้านลูกเป็ดหน่อมแน้ม (Snuggly Duckling Parlor)
ที่เต็มไปด้วยคนเถื่อนชาวไวกิง ทว่า ชาวไวกิงกลับเอ็นดูราพันเซล
และราพันเซลแนะนำให้พวกเขาทำความฝันของตนให้สำเร็จ
เหมือนที่เธอกำลังจะไปดูโคมลอยที่ฝันหามานาน
ระหว่างเดินทาง กอเธลพบม้าแม็กซิมัสที่ไม่มีคนขี่
และเกิดกังวลขึ้นมาว่าจะมีคนไปพบราพันเซลขึ้น เธอรีบกลีบไปยังหอคอย
แต่พบว่าราพันเซลไม่อยู่แล้ว ขณะนั้น
เหล่าองครักษ์มาถึงร้านลูกเป็ดหน่อมแน้มเพื่อจับกุมฟลิน
แต่ชาวไวกิงช่วยฟลินและราพันเซลหนีไปได้
การไล่ล่ายุติลงเมื่อม้าแม็กซิมัสทำให้เขื่อนแตก
และฟลินกับราพันเซลติดอยู่ในถ้ำน้ำท่วมไร้ทางออก
เมื่อคิดว่าตนกำลังจะใกล้ความตาย เขาสารภาพว่า อันที่จริงตนเองชื่อ ยูจีน
ฟิตซ์เฮอร์เบิร์ต (Eugene Fitzherbert)
ส่วนราพันเซลก็สารภาพว่าเธอมีเกศาวิเศษที่เรืองแสงได้เวลาที่เธอร้องเพลง
มนต์ ทันใด ผมของเธอก็เรืองแสงขึ้นและชี้ทางออกให้แก่คนทั้งสอง
ทั้งคู่จึงออกจากถ้ำปิดตายนั้นได้
และราพันเซลได้ใช้ผมของเธอเยียวยาบาดแพลของยูจีน คืนนั้น
กอเธลติดตามมาพบราพันเซล และบอกเธอว่า ยูจีนไม่สนใจเธอจริง
เขาประสงค์เพียงได้ศิราภรณ์เท่านั้น
โดยกอเธลยืนยันให้ราพันเซลทดสอบยูจีนโดยคืนศิราภรณ์ให้ดู
เช้าวันต่อมา ม้าแม็กซิมัสพบยูจีน แต่ได้กลายเป็นเพื่อนกับราพันเซลไป
และยอมร่วมทางไปกับคนทั้งสองเพื่อกลับอาณาจักรแล้วพาราพันเซลไปดูโคมลอย
ราตรีนั้น
ยูจีนพาราพันเซลล่องลอยไปกลางอ่าวหน้าพระราชวังเพื่อชมดูโคมลอยอย่างใกล้ ๆ ณ
ที่นั้น ราพันเซลคืนศิราภรณ์ให้เขา
แต่เขากล่าวว่าเขาไม่ต้องการมันอีกต่อไปแล้วเมื่อเขาได้พบเธอ ทันใด
เขาสังเกตเห็นเพื่อนโจรของเขาที่เขาทิ้งมา
เขาจึงละราพันเซลไปพบเพื่อนเพื่อยกศิราภรณ์ให้ ทว่า
เพื่อนโจรจับเขามัดติดกับเรือแล้วให้แล่นเข้าไปในท่าของพระราชวัง
พวกเขาบอกแก่ราพันเซลว่า ยูจีนทรยศความรู้สึกของเธอโดยชิงศิราภรณ์จากไปแล้ว
และพวกเขาจะจับเธอเพื่อเอาผมเธอไปขายเสียเดี๋ยวนี้
แต่กอเธลช่วยราพันเซลไว้ได้ และพาเธอกลับหอคอย ทว่า
ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของกอเธล วันนั้น ยูจีนถูกจับ
และพิพากษาประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ
ม้าแม็กซิมัสจึงนำพาชาวไวกิงที่ร้านลูกเป็ดหน่อมแน้มมาช่วยยูจีน
และไปช่วยราพันเซลที่หอคอยกัน
ราพันเซลคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้พบขณะเดินทางไปดูดูโคมลอย
เธอจึงทราบว่า เธอคือเจ้าหญิงที่หายไปจากอาณาจักร และพยายามจะหลบหนี
กอเธอจึงจับเธอไว้ และเมื่อยูจีนมาถึงหอคอย กอเธลแทงเขาจากข้างหลัง
แล้วกล่าวว่านางจะพาราพันเซลหนีไปอยู่ที่อื่นแล้ว
แต่ราพันเซลขอให้เธอให้ใช้ผมรักษายูจีนก่อน เธอจะยอมเป็นของกอเธลตลอดไป
ก่อนราพันเซลจะได้ช่วยเยียวยายูจีน
ยูจีนคว้าเศษกระจกมาตัดผมของราพันเซลเสียจนสั้น
เกศาของราพันเซลจึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มและสูญเสียสรรพคุณไป
กอเธลบันดาลโทสะเป็นอันมาก
และร่างกายนางก็เปลี่ยนกลับสู่ความชราอย่างรวดเร็ว
จนนางมิอาจยอมรับเงาของตนในกระจกได้ และใช้ผ้าคลุมปิดหน้าตนเองไว้
ด้วยความโกรธและตระหนก นางสะดุดพุ่งออกจากประตูหอคอย
ดิ่งลงสู่พื้นเบื้องล่าง ร่างกายของนางก็ร่วงโรยขึ้นเรื่อย ๆ
ก่อนนางจะปะทะกับพื้นแล้วป่นเป็นเถ้ากระดูกไป
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
2 ความคิดเห็น:
เรื่อง ราพันเซล พลาดครับ ยังไม่ได้ดูเลย
อยากไปดูจังเลย น่าสนุกดี
พิชชญา 035
แสดงความคิดเห็น