วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
Walt Disney
Walt Disney เดอะวอลต์ดิสนีย์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2466 (ค.ศ. 1923) ในชื่อ "ดิสนีย์บราเธอส์คาร์ตูนสตูดิโอ" (Disney Brothers Cartoon Studio) โดยสองพี่น้องดิสนีย์ วอลต์ ดิสนีย์ และ รอย ดิสนีย์ หลังจากที่ทั้งคู่ได้ทำสัญญากับ เอ็ม. เจ. วิงเกลอร์ ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ในฮอลลีวูด โดยซ็นสัญญาการ์ตูนชุด อลิซคอเมดีส์ (Alice Comedies) ที่วอลต์ได้เริ่มทำเมื่อสมัยที่ทำภาพยนตร์ที่แคนซัสซิตี หลังจากบริษัทก่อตั้งได้ระยะหนึ่ง บริษัทได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอ" (Walt Disney Studio)

Tangled (ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ)
ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ
เป็น ภาพยนตร์เพลงแนวตลก/เพ้อฝัน สัญชาติอเมริกัน ซึ่งสร้างด้วยคอมพิวเตอร์แอนิเมชัน โดย วอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์
เมื่อ พ.ศ. 2553 และเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันซึ่งฉายในโรงภาพยนตร์เป็นลำดับที่ 50 ของวอล์ดิสนีย์ มีเนื้อหาอิงเทวนิยายเยอรมันเรื่อง ราพันเซล (Rapunzel) ของพี่น้องกริม อย่างหยาบ ๆ และในภาคภาษาอังกฤษ ตัวละครเด่น ๆ นั้นให้เสียงโดย แมนดี มัวร์, ซาชารี เลวี และ ดอนนา เมอร์ฟีย์
จำเดิม
ชื่อภาษาอังกฤษของภาพยนตร์นี้คือ Rapunzel แต่ก่อนออกฉายเล็กน้อย ได้เปลี่ยนเป็น Tangled แทน โดยออกฉายในโรงภาพยนตร์ระบบสามมิติเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 ส่วนในประเทศไทย ฉายเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2554
การจัดสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ใช้เวลาถึงหกปี และแอลเอไทมส์รายงานว่า ใช้ทุนไปราว ๆ สองร้อยหกสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งนับเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ใช้จ่ายเงินไปมากที่สุดทีเดียว
เรื่องย่อ
หยาดแสงอาทิตย์หยาดหนึ่งตกลงสู่พื้นโลก
และงอกงามขึ้นเป็นบุปผาเรืองแสงประกอบด้วยสรรพคุณเยียวยาความป่วยเจ็บบรรดา
มี หญิงชรานางหนึ่ง ชื่อว่า "กอเธล" (Gothel) พบเจอเข้า
จึงใช้มันเพื่อบันดาลให้นางงดงามและเยาว์วัยดุจหญิงสาว
โดยวิธีร้องเพลงมนตร์แก่บุปผานั้นว่า "บุปผาเรืองแสงส่อง เปล่งฤทธาของเจ้า
ช่วยย้อนวันให้เรา คืนสิ่งที่เคยได้ครอง" ("Flower, gleam and glow. Let
your power shine. Make the clock reverse. Bring back what once was
mine.") นางนำสุ่มมาครอบบุปผานั้นเอาไว้เพื่อเก็บไว้ใช้แต่ผู้เดียว
เวลาผ่านมาหลายร้อยปี เกิดมีอาณาจักรขึ้นบริเวณนั้น
ราชินีอันเป็นที่รักแห่งอาณาจักรดังกล่าวประชวรขณะให้ประสูติกาล
ทหารและพลเมืองช่วยกันค้นหาวิธีแก้ไข และพบบุปผานั้นเข้าโดยบังเอิญ
ราชินีทรงได้รับการรักษา และมีประสูติกาลแก่ธิดาพระนามว่า "ราพันเซล"
(Rapunzel) ผู้มีเกศางามดังทอง และบัดนี้
เกศาของพระธิดากลายเป็นแหล่งสรรพคุณวิเศษของบุปผานั้นแทน ในคืนนั้น
กอเธลลักพาพระธิดาไปซ่อนไว้ในหอคอยสูงกลางป่า แล้วเลี้ยงดูประดุจบุตรในอุทร
เพื่อใช้ผมของราพันเซลช่วยให้นางคงความเยาว์วัยและสวยสด นางทราบดีว่า
ถ้าตัดผมของราพันเซลออก ผมนั้นจะเสื่อมสรรพคุณ
และเปลี่ยนจากสีทองเป็นสีน้ำตาลทันที ดังนั้น
นางจึงปล่อยให้เกศาของราพันเซลยาวโดยมิได้ตัดเลย
และมิให้ราพันเซลออกนอกหอคอยเลย ทั้งนี้ ทุก ๆ ปี
ในวันคล้ายวันประสูติของราพันเซล
พระราชาและราษฎรของพระองค์จะปล่อยโคมลอยนับแสนดวงขึ้นสู่ฟ้า
พวกเขาหวังว่าโคมลอยจะนำพาพระธิดาของพวกเขากลับมาอีกครั้ง
ในวันก่อนวันคล้ายวันประสูติปีที่สิบแปดของราพันเซล
เธอขอให้กอเธลอนุญาตให้เธอออกไปดูโคมลอยนอกหอคอย แต่กอเธลไม่อนุญาต
และให้สาเหตุว่า โลกภายนอกมีแต่ภยันตรายและความชั่ว
ขณะเดียวกัน กลุ่มโจรกลุ่มหนึ่ง นำโดย ฟลิน ไรเดอร์ (Flynn Rider)
ชายหนุ่มรูปงาม
ได้โจรกรรมศิราภรณ์ที่สร้างไว้สำหรับเจ้าหญิงผู้หายไปไปจากพระราชวัง
ในระหว่างเหล่าองครักษ์ไล่ตามกลุ่มโจรอย่างติดพันนั้น แม็กซิมัส (Maximus)
ม้าของหัวหน้าองครักษ์ คลาดจากกลุ่มโดยไม่มีผู้ขี่
ม้าแม็กซิมัสจึงออกตามล่าฟลินเอง ในเวลานั้น
ฟลินหลอกเอาศิราภรณ์ไปจากเพื่อนร่วมกลุ่ม
แล้วหนีขึ้นไปซ่อนตัวที่หอคอยของราพันเซลซึ่งเขาพบโดยบังเอิญ
แต่เขาถูกราพันเซลฟาดด้วยกระทะจนสลบไป เธอซ่อนเขาไว้ในตู้เสื้อผ้าของเธอ
แล้วริบศิราภรณ์ไว้
เมื่อกอเธลกลับมา
ราพันเซลขอให้นางไปเก็บเปลือกหอยมาให้เป็นของขวัญวันเกิด
เพื่อนำมาทำสีระบายภาพ กอเธลยอมใช้เวลาเดินทางสามวันไปเอาของขวัญมาให้
ระหว่างนั้น ราพันเซลตกลงกับฟลินว่า ถ้าอยากให้ศิราภรณ์คืน
ให้พาเธอออกไปนอกหอคอย เพื่อไปชมดูเหล่าโคมลอย ที่เธอเข้าใจว่าเป็น
"หมู่ดาว" อันจะปรากฏขึ้นทุก ๆ วันคล้ายวันเกิดของเธอ
ฟลินพยายามให้ราพันเซลเลิกเดินทางแล้วกลับหอคอยไปเสียโดยพาเธอไปค้างแรมที่
ร้านลูกเป็ดหน่อมแน้ม (Snuggly Duckling Parlor)
ที่เต็มไปด้วยคนเถื่อนชาวไวกิง ทว่า ชาวไวกิงกลับเอ็นดูราพันเซล
และราพันเซลแนะนำให้พวกเขาทำความฝันของตนให้สำเร็จ
เหมือนที่เธอกำลังจะไปดูโคมลอยที่ฝันหามานาน
ระหว่างเดินทาง กอเธลพบม้าแม็กซิมัสที่ไม่มีคนขี่
และเกิดกังวลขึ้นมาว่าจะมีคนไปพบราพันเซลขึ้น เธอรีบกลีบไปยังหอคอย
แต่พบว่าราพันเซลไม่อยู่แล้ว ขณะนั้น
เหล่าองครักษ์มาถึงร้านลูกเป็ดหน่อมแน้มเพื่อจับกุมฟลิน
แต่ชาวไวกิงช่วยฟลินและราพันเซลหนีไปได้
การไล่ล่ายุติลงเมื่อม้าแม็กซิมัสทำให้เขื่อนแตก
และฟลินกับราพันเซลติดอยู่ในถ้ำน้ำท่วมไร้ทางออก
เมื่อคิดว่าตนกำลังจะใกล้ความตาย เขาสารภาพว่า อันที่จริงตนเองชื่อ ยูจีน
ฟิตซ์เฮอร์เบิร์ต (Eugene Fitzherbert)
ส่วนราพันเซลก็สารภาพว่าเธอมีเกศาวิเศษที่เรืองแสงได้เวลาที่เธอร้องเพลง
มนต์ ทันใด ผมของเธอก็เรืองแสงขึ้นและชี้ทางออกให้แก่คนทั้งสอง
ทั้งคู่จึงออกจากถ้ำปิดตายนั้นได้
และราพันเซลได้ใช้ผมของเธอเยียวยาบาดแพลของยูจีน คืนนั้น
กอเธลติดตามมาพบราพันเซล และบอกเธอว่า ยูจีนไม่สนใจเธอจริง
เขาประสงค์เพียงได้ศิราภรณ์เท่านั้น
โดยกอเธลยืนยันให้ราพันเซลทดสอบยูจีนโดยคืนศิราภรณ์ให้ดู
เช้าวันต่อมา ม้าแม็กซิมัสพบยูจีน แต่ได้กลายเป็นเพื่อนกับราพันเซลไป
และยอมร่วมทางไปกับคนทั้งสองเพื่อกลับอาณาจักรแล้วพาราพันเซลไปดูโคมลอย
ราตรีนั้น
ยูจีนพาราพันเซลล่องลอยไปกลางอ่าวหน้าพระราชวังเพื่อชมดูโคมลอยอย่างใกล้ ๆ ณ
ที่นั้น ราพันเซลคืนศิราภรณ์ให้เขา
แต่เขากล่าวว่าเขาไม่ต้องการมันอีกต่อไปแล้วเมื่อเขาได้พบเธอ ทันใด
เขาสังเกตเห็นเพื่อนโจรของเขาที่เขาทิ้งมา
เขาจึงละราพันเซลไปพบเพื่อนเพื่อยกศิราภรณ์ให้ ทว่า
เพื่อนโจรจับเขามัดติดกับเรือแล้วให้แล่นเข้าไปในท่าของพระราชวัง
พวกเขาบอกแก่ราพันเซลว่า ยูจีนทรยศความรู้สึกของเธอโดยชิงศิราภรณ์จากไปแล้ว
และพวกเขาจะจับเธอเพื่อเอาผมเธอไปขายเสียเดี๋ยวนี้
แต่กอเธลช่วยราพันเซลไว้ได้ และพาเธอกลับหอคอย ทว่า
ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของกอเธล วันนั้น ยูจีนถูกจับ
และพิพากษาประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ
ม้าแม็กซิมัสจึงนำพาชาวไวกิงที่ร้านลูกเป็ดหน่อมแน้มมาช่วยยูจีน
และไปช่วยราพันเซลที่หอคอยกัน
ราพันเซลคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้พบขณะเดินทางไปดูดูโคมลอย
เธอจึงทราบว่า เธอคือเจ้าหญิงที่หายไปจากอาณาจักร และพยายามจะหลบหนี
กอเธอจึงจับเธอไว้ และเมื่อยูจีนมาถึงหอคอย กอเธลแทงเขาจากข้างหลัง
แล้วกล่าวว่านางจะพาราพันเซลหนีไปอยู่ที่อื่นแล้ว
แต่ราพันเซลขอให้เธอให้ใช้ผมรักษายูจีนก่อน เธอจะยอมเป็นของกอเธลตลอดไป
ก่อนราพันเซลจะได้ช่วยเยียวยายูจีน
ยูจีนคว้าเศษกระจกมาตัดผมของราพันเซลเสียจนสั้น
เกศาของราพันเซลจึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มและสูญเสียสรรพคุณไป
กอเธลบันดาลโทสะเป็นอันมาก
และร่างกายนางก็เปลี่ยนกลับสู่ความชราอย่างรวดเร็ว
จนนางมิอาจยอมรับเงาของตนในกระจกได้ และใช้ผ้าคลุมปิดหน้าตนเองไว้
ด้วยความโกรธและตระหนก นางสะดุดพุ่งออกจากประตูหอคอย
ดิ่งลงสู่พื้นเบื้องล่าง ร่างกายของนางก็ร่วงโรยขึ้นเรื่อย ๆ
ก่อนนางจะปะทะกับพื้นแล้วป่นเป็นเถ้ากระดูกไป
monster inc (บริษัท รับจ้างหลอน (ไม่)จำกัด)
Monster inc(บริษัท รับจ้างหลอนไม่จำกัด)
เมื่อถึงเวลาเข้านอน เด็กๆเทั่วโลกต่างรู้ดีว่า เมื่อพ่อแม่ของพวกเขา
พาพวกเขาขึ้นเตียงนอน และ.ปิดไฟมืดเมื่อไหร่
สัตว์ประหลาดที่ซ่อนตัวอยู่หลังประตูตู้เสื้อผ้าจะกระโดดออกมาทันที
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่เคยรู้เลยก็คือเที่สัตว์ประหลาดเหล่านี้ต้องหลอกให้
เด็กๆเกลัว ไม่ใช่แค่เรี่องล้อเล่นส่วนตัว
มันคือเงานของพวกสัตว์ประหลาดทั้งหลาย มอนสโทรโพลิส
คือเบ้านของเหล่าประชากรสัตว์ประหลาดที่มีทุกรูปร่างและ.ทุกขนาด
แหล่งพลังงานหลักของพวกมันได้มาจากเสียงกรีดร้องของมนุษย์
และ.โรงงานที่ผลิตเสียงกรีดร้องขนาดใหญ่ที่สุด
ก็คือเทีมสัตว์ประหลาดแถวหน้าของโรงงาน
จะเดินทางสู่โลกมนุษย์โดยผ่านประตูตู้เสื้อผ้าในยามค่ำคืน
ก็เพื่อหลอกเด็กๆเให้ตกใจกลัว และ.เก็บเสียงกรีดร้องของพวกเขาเอาไว้
ที่ทำให้งานนี้ยากมากก็คือเความจริงที่ว่า สัตว์ประหลาด
เหล่านี้เชื่อว่าพวกเด็กๆเคือเของมีพิษ
และ.ถ้าไปแตะโดนตัวเด็กเข้าจะนำมาซึ่งหายนะ


Mulan(มู่หลาน)
Mulan ภาพยนตร์การ์ตูนโดยดิสนีย์ ออกฉายวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.
2541 กำกับโดย Tony Bancroft และ Barry Cook.
เรื่องย่อ
ฟู ควางไว้ ว่าเจ้าต้องเห็นแก่บุรุษซะบ้าง
ต่อมาพ่อของเธอได้ไปที่ห้องเสื้อผ้าเพื่อเตรียมรบและเขาก็หยิบดาบเพื่อจะฝึก
การรบจนเขาปวดหลัง และเขาก็หยิบเอกสารจากสำนักอยู่ในมือของเขา
จนวันหนึ่งครอบครัวตระกูลฮัวกำลังทนข้าวกันอยู่มู่หลานเริ่มรู้สึกเริ่มอา
รมด์ไม่ดีเรื่องพ่อของเธอจะตายในการรบครั้งนี้ ก็เลยใช้แกวทุบโตะเสียงดัง
และสั่งไม่ให่พ่อไปรบกัน
พ่อจึงไม่สนใจเพื่อจะรบในการช่วยเหลือประเทสจีนให้อยู่รอดเนื้อมือของพวก
ฮั่นที่จะมาโจมตีในครั้งนี้ มู่หลานเริ่มรู้สึกเสียใจมาก
เธออกจากบ้านนั่งร้องไห้และหาทางคิดว่าจะทำยังไงดีเพื่อจะไม่ให้พ่อของเธอ
ออกไปรบ มู่หลานตัดสินใจงโขมยชุดเกราะของเขาไปพร้อมด้วยคาน
ม้าศึกคู่ใจของมู่หลาน และมู่หลานก็หนีออกจากบ้านไป
และยายก็ตกใจตื่นขึ้นมาไม่เห็นมีมู่หลานเลย จึงบอกพ่อกับแม่ว่า
มู่หลานหนีไปแล้ว เขาได้ไปที่ห้องแต่ชุดเกราะที่อยู่มันหายไปแล้ว
จนเขาวิตกกังวลว่าลูกจะตายไป เขาและภรรยาจึงออกนอกบ้านท่ามกลางสายฝน
ทั้งคู่ก็เสียใจมากคิดว่าจะสียลูกสาวไป
จนยายต้องอ้อนวอนว่าขอให้บรรชนฮัวปกป้องคุ้มครองมู่หลานด้วยเถิด
และในศาลเจ้าเริ่มปรากฏตัวหัวหน้าวิญญาณและเขาปลุกมูชูมังกรสีแดงออกมา
และเขาได้ปลุกพวกวิญญาณทั้งหมดจนมีเหตุเรื่องมู่หลานของไปรบจนบรรดาเหล่า
วิญญาณพูดคุยกัน
จนหัวหน้าได้ไปเจอกับมังกรหินอยู่ข้างนอกและจะให้ปลุกมันตื่นขึ้น
มูชูก็ไปช่วยปลุกแต่มังกรไม่ยอมตื่น
จึงต้องตีหัวเพื่อจะตื่นอีกทีจนรูปปั้นก็หักพังลง
จนมูชูเสียดายมากตอนที่รูปปั้นนั้นพังยับเยินหมด
จนเขาได้พบกับคริกครี่ได้พามูชูไปหามู่หลาน
ขณะนั้นมู่หลานกำลังฝึกอยู่ในป่าไผ่พร้อมคาน
แต่เธอได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้น จนมู่หลานและคานต้องหลบหนีไปในก้อนหิน
พอพูดเสร็จก็ปรากฏโฉมหน้าที่มู่หลานไม่รู้จัก
เขาแนะนำชื่อของเขาจนเสร็จแล้ว ทั้งหมดได้เข้าค่ายทหารรบของชาวจีน
จนมู่หลานได้พบกับชายแปลกๆบ้าง
แต่มู่หลานได้เห็นคนสักยันตร์มังกรในค่ายจนเหยาได้ทุบหน้าอกจนสลบไป
จนก่อกวนไปทั่วค่าย
ในค่ายของฉางและแม่ทัพได้ตรวจดูการบุกรุกชาวฮั่นที่พร้อมจะโจมตี
และแม่ทัพได้ออกไปต่อสู้กับชาวฮั่นไป
ฉางได้เห็นคนทะเลาะกันว่ามีอะไรผิดปกติ
พวกทหารชี้ศัตรูที่มาก่อกวนในค่ายนี้ ฉางได้ไปหาทหารแปลกหน้า
และสั่งไม่ให้บุกรุกก่อกวนในค่ายนี้ ฉางบอกชื่อแต่มุชูตัดสินใจเป็น ผิง
และฉางได้ยิงธนูถูกเสาที่สูงมาก ต้องพยายามเก็บมาให้ได้
วันหนึ่งมู่หลานได้ออกฝึกในค่ายและนอกค่าย
มู่หลานพยายามฝึกวิชาในค่ายทหารอย่างเต็มที่
พอตกกลางคืนมู่หลานตั้งใจที่จะเก็บลูกธนูมาให้ได้ และได้เก็บลูกธนูไป
ต่อมาฉางหยูกับลูกสมุนของเขา ได้เตรียมกองกำลังเอาไว้ ฉาง หยู
ได้พบกับตุ๊กตา
พูดว่ากำลังจะไปคนเธอ และมู่หลานก็อาบน้ำ ได้พบกับ หลิน เฉียน โป และ
เหยา ลงมาเล่นน้ำด้วย หลินได้แกล้งทหารแปลกหน้า มู่หลานก็ขึ้นไปจากฝั่ง
ได้มีทหารต่างๆวิ่งไปหมดที่จะเล่นน้ำด้วยกัน มูชู กับ
คริกครี่ได้เขียนจดหมายเรื่องทัพสงคราม ให้กับ ฉี ฟู
เขารู้ว่าจะเตรียมให้พร้อมพรุ่งนี้ มู่หลาน มู่ชูและครอครี่
พร้อมด้วยทหารต่าง ฉาง และ ฉี ฟู ออกเดินทางไป
จนได้พบกับหมู่บ้านที่ถูกไฟเผาหมด ฉางกังวลว่าพ่อเขาอยู่หรือเปล่าฉี ฟู
เรียก ฉางให้มาดู แต่เขาเห็นทหารตายอยู่ข้างล่าง เฉียน โป ได้เอาหมวกพ่อ
ฉาง ได้เอาดาบปักพร้อมด้วยหมวกของพ่อ เสร็จแล้วก็ออกเดินทางต่อไป
และแล้วสิ่งไม่ดีก็เกิดขึ้นมาคือกองทัพชาวฮั่นที่ยิงธนูใส่พวกทหาร
พรรคพวกก็หลบหนีตั้งแผน พร้อมยิงปืนใหญ่ ยิงใส่ พอสักพัก ได้เห็นฉาง
หยูกับม้าศึก พร้อมลูกสมุนจำนวนมาก ฉาง หยู พร้อมเตรียมโจมตีข้างหน้า
มู่หลานเอาปืนใหญ่เพื่อยิงใส่ภูเขาลูกโน้น แต่มูชูติดอยู่
จนระเบิดใส่พวกกองทัพฮั่น ฉาง หยู โกรธมากที่ทำกับลูกสมุนของเขาตาย ฉาง
หยูใช้ดาบใสที่ท้องเธอ นายกองฉางได้ช่วยชีวิตเธอ ได้หนีไปหิมะกำลังถล่ม
พอหิมะหยุดถล่มสักพัก เธอได้รับบาดเจ็บ ตอนที่เธออยู่ที่เต้นท์พยาบาล ฉาง
ได้เข้าไปดูว่าเธอตื่นขึ้นมาเห็นว่ามรที่ปิดหน้าอกไว้ และฉี ฟู
รู้เข้าเห็นว่าไม่เป็นทหารแปลกหน้าผู้ชายแต่เป็นผู้หญิง ฉี ฟู สั่งให้ฉาง
หยูเอาดาบเพื่อที่จะฆ่าเธอ มูชู คริกครี่ และ
ทหารก็คิดว่าไม่น่าจะฆ่าเธอเลย เพื่อที่จะช่วยเธอ จนฉี ฟู
ห้ามไว้ฉางจึงตัดสินใจไม่ฆ่าเธอ ฉาง ก็สั่งพวกทหารออกเดินทางไปวังหลวง
ไปที่ฮั่นฉาง หยูก็เห็นศัตรูถูกถลบ่มหิมะตายไปหมด ฉาง หยู
เริ่มโกรธและโมโหมากจนร้องเสียงดังไปทั่ว และทหารของเขาได้ยินก็โผล่ออกมา
พร้อมจะตะลุยไปวังหลวงเช่นกัน มู่หลานคิดว่าจะฆ่าฮ่องเต้เช่นกัน
จึงเอาคานม้าคู่ใจของเธอ และไปวังหลวงทันที ในเมืองมีเทศกาลจีนขบวนแห่
มู่หลานบอกกับฉางว่า พวกกองทัพฮั่นจะบุกโจมตีวัง ฉางก็ไม่สนใจที่เธอพูดเลย
และไม่เชื่อเธอ กองทัพทหารซ่อนเป็นนักแสดงเชิดสิงโต พอไปถึงวังหลวง ฉาง
หยูมอบดาบของพ่อ พอมอบดาบอินทรีได้โขมยให้ฉาง หยู
และลูกสมุนได้จับตัวฮ่องเต้ไปเข้าวัง
พวกทหารได้เอารูปปั้นสิงโตเพื่อเปิดประตู
การเปิดประตูใช้ไม่ได้ผลเพราะถูกล็อกเอาไว้ มู่หลานได้แผนแล้วเรียก หลิน
เฉียน โป และ เหยา ได้แต่งตัวเป็นผู้หญิงที่จะหลอกล่อชาวฮั่น
แต่มีนายกองฉางมาด้วย และได้ปีนเสาขึ้นวังเพื่อจะช่วยฮ่องเต้
ทั้งหมดรีบจัดการกับพวกชาวฮั่นจนสลบไป ฉางได้ต่อสู้กับ ฉาง หยู แต่ไม่ได้ผล
เฉียน โป ช่วยฮ่องเต้ออกข้างนอกวัง ฉาง หยู กับ มู่หลานได้ต่อสู้กัน
มูชุเอาจรวดระเบิดพรุจน ฉาง หยูติดไว้ และแล้วฉางหยูถูกระเบิดตาย
ฮ่องเต้ก็ก็พูดกับลูหลานว่า ข้าได้ยินเรื่องของเจ้ามามากฮัวนา มู่หลาน
เจ้าโขมยชุดเกราะของพ่อและหนีออกจากบ้าน
และแฝงตัวเป็นทหารหลอกให้นายกองหลวงเชื่อ
ทำความเสื่อมแก่กองทัพจีนทำลายพระราชวังของข้าและเจ้าได้ช่วยชีวิตพวกเราทุก
คน พูดจบฮ่องเต้ได้คำนัพมู่หลานที่เป็นวีรสตรีแห่งประเทศจีนนี้
ทุกคนก็เหมือนกัน เสร็จแล้วฮ่องเต้ได้มอบดาบให้แก่เธอ พร้อมด้วย สร้อยคอ
พอเสร็จแล้วก็กลับไปบ้าน พ่อของเธอได้เห็นว่าเธอยังไม่ตายยังอยู่รอด
พอศึกสงครามชาวฮั่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอสักพักนายกอง
ฉางได้เอาหมวกของพ่อมู่หลาน
มูชูเตรียมจัดงานฉลองในศาลเจ้าอยู่กันอย่างมีสุขตลอดไป
Toy Story (ทอย สตอรี่)
Toy Story เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องแรกของ พิกซาร์ ที่ทำมาจาก คอมพิวเตอร์ ทั้งหมดเลย จากประเทศสหรัฐอเมริกา ออกฉายในปี 2538 จัดจำหน่ายโดย วอลต์ ดิสนีย์ พิกเจอส์ กำกับโดย จอห์น แลสเซทเตอร์ พากย์โดย ทอม แฮงส์, ทิม อัลเลน, ดอน ริกเกิลส์, Blake Clark, Wallace Shawn และ John Ratzenberger มีภาคต่อคือ ทอย สตอรี่ 2 และ ทอย สตอรี่ 3 ทอย สตอรี่ ได้รับรางวัลออสการ์พิเศษเรื่องนี้และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ 3 สาขา รางวัลลูกโลกทองคำอีก 2 สาขา ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความยาว 81 นาที ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ 354,300,000 ล้านเหรียญ[1] งบประมาณ 30 ล้านเหรียญ นอกจากจะเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันแล้วย้งเป็น ละครเวที ชื่อว่า ทอย สตอรี่: เดอะมิวสิคัล ได้แสดง เดือนมีนาคม พ.ศ. 2551 ที่ ดิสนีย์ วินโด่ และ จะกลับมาเล่นอีก ในต้นปี 2011
ทอย สตอรี่ ผู้อยู่เบื้องหลังประสบความสำเร็จ
คือ จอห์น ลาสซีเตอร์, พีท ด็อกเตอร์, แอนดรูว์ สแตนตัน และ โจ แรนฟ์ต โดยพวกเขาคนถือเป็น 4 ทหารเสือของพิกซ่าร์ ซึ่งมีหนังแอนิมิชั่นเรื่องเยี่ยมออกสู่สายตาผู้ชมทั่วโลกเรื่อยมาไล่จนถึงปัจจุบัน
วูดี้ ของเล่นคาวบอย ในฐานะของเล่นตัวโปรดของแอนดี้ เด็กชายวัย 6 ขวบ ทำให้วูดี้กลายเป็นหัวหน้าบรรดาของเล่น ด้วยความมาดมั่น ใกล้วันที่ย้ายบ้าน แอนดี้ จึงจัดวันเกิดก่อนวันเกิดจริง แต่เมื่อบัซ ไลท์เยียร์ ตุ๊กตาตำรวจอวกาศที่แม่ให้เป็นของขวัญซอไพรซ์ ได้ก้าวเข้าในถิ่นของวูดี้ ในฐานะของขวัญวันเกิดชิ้นโปรดของแอนดี้ การชิงดีชิงเด่น เพื่อเป็นขวัญใจ ของเจ้านายตัวน้อยจึงเกิดขึ้น และส่งผลให้ทั้งคู่ต้องตกไปอยู่ในบ้านของซิด เด็กชายข้างบ้านผู้รักที่จะทำลายของเล่นเป็นชีวิตจิตใจ และการร่วมมือระหว่างวูดี้กับบัซ เพื่อหลบหนีกลับมานี่เองที่ทำให้พวกเขาตระหนักถึงมิตรแท้ วู้ดดี้ และ บัซ ไลท์เยียร์ ได้พยายามไปให้ทันรถขนส่งให้ได้ คู่หูที่ดูไม่น่าจะเข้ากันได้ทั้งสองต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวายความแตกต่าง ของแต่ละคนเพื่อที่จะเอาชนะอุปสรรคที่จะทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจาก แอนดี้ เจ้าของพวกเขา กับการผจญภัยสุดป่วน ภารกิจสุดฮา กับเพื่อนพ้องของเล่นอีกมากมาย
Lion king (ไลอ้อน คิง)
เดอะ ไลอ้อน คิง ได้รับรางวัลออสการ์ ใน 2 สาขา คือ สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (เพลง Can You Feel the Love Tonigt)
เรื่องย่อ |
สิงโตผู้เป็นจ่าฝูง ในหุบเข้า ทรนง เป็นเจ้าแห่งสัตว์ทั้งมวล
และมีจอมมายา อลิงแมนดริลราฟิกิ ได้ทำพิธีเจิมซิมบ้า ลูกสิงโตเกิดใหม่ของ
สองสิงโดมามุฟาซาและซาราบี และแสดงตัวซิมบ้าให้สัตว์ป่าที่มาชุมนุม ณ
เขาทรนง
มุฟาซาเลี้ยงดูซิมบ้าในแดนทรนง
คอยสั่งสอนซิมบ้าเกียวกับวัฏสงสารและความเป็นจริงของชีวิต ฝ่ายสการ์
น้องชายของมุฟาซาผู้หวังจะขึ้นเป็นเจ้าป่าครองแดนทรนงได้เล่าให้ซิมบ้าฟัง
ถึงสุสานช้างที่มุฟาซาสั่งห้ามไม่ให้ซิมบ้าไป
ซิมบ้าได้ไปขออนุญาตจากซาราบีผู้เป็นแม่ว่าจะไปเที่ยวเล่นที่หนองน้ำพร้อม
กับนาลา ลูกสิงโตตัวเมียที่เป็นเพื่อนสนิทของซิมบ้า
ซาราบีอนุญาตแต่ต้องให้ซาซู นกเงือกซึ่งเป็นคนสนิทของมุฟาซา ติดตามไปด้วย
แต่ซิมบ้าและนาลาได้หลบหนีการควบคุมของซาซูและเดินทางไปสุสานช้าง ณ ที่นั้น
ซิมบ้าและนาลาได้พบกับหมาไน เช็นซี บันไซ และ เอ็ด
หมาไนทั้งสามหวังจะสังหารซิมบ้าและนาลา แต่มุฟาซาได้มาช่วยชีวิตได้ทัน
หลังจากนั้นไม่นาน สการ์ได้เกลี้ยกล่อมเหล่าหมาไนให้เป็นพวก
แล้วเริ่มวางแผนกำจัดมุฟาซาและซิมบ้า
ต่อมาสการ์การหลอกให้ซิมบ้าไปเล่นในหุบเขา
แล้วจึงให้หมาไนต้อนฝูงควายป่าเข้าไปในหุบเขา
ซิมบ้าต้องหนีตายจากการถูกฝูงควายป่าเหยียบ
ฝ่ายมุฟาซาก็รีบมาช่วยซิมบ้าจากฝูงควายป่า มุฟาซาช่วยซิมบ้าได้สำเร็จ
แต่ตัวเขาเองถูกสการ์ผลักตกจากเชิงผาและถูกฝูงวัวป่าเหยียบจนตาย
ฝ่ายสการ์ได้หลอกซิมบ้าว่าซิมบ้าเป็นต้นเหตุให้มุฟาซาตายแล้วให้ซิมบ้าหนี
ออกจาแดนทรนงโดยไม่ต้องกลับมาอีก หลังจากนั้น สการ์ได้สั่งให้สามกหมาไน
เซนซี บันไซ และเอ็ด ออกไล่ฆ่าซิมบ้า แต่ซิมบ้าหนีได้ทัน
สการ์ได้ขึ้นเป็นเจ้าป่าแทนมุฟาซา
โดยบอกเหล่าสัตว์เชื่อว่าในแดนทรนงว่าทั้งมุฟาซาและซิมบ้าได้ตายไปแล้ว
ฝ่ายซิมบ้าได้พบกับเมียร์แคททีโมนและหมูป่าพุมบ้าโดยไม่คาดฝัน
คู่หูทั้งสองได้สอนการใช้ชีวิตแบบไม่ต้องกังวลอะไรให้กับซิมบ้า
ซิมบ้าได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายกับทีโมนและพุมบ้าจนกระทั่งเติบโตเป็นสิงโต
หนุ่ม แล้วซิมบ้าก็ได้พบกับนาลาเพื่อนสมัยเด็กโดยบังเอิญ
นาลาได้บอกซิมบ้าว่าตั้งแต่สการ์ขึ้นเป็นเจ้าป่า
แดนทรนงได้กลายเป็นดินแดนแห้งแล้งไปแล้ว
เธอได้ขอให้ซิมบ้ากลับไปยึดแดนทรนงคืนจากสการ์ แต่ซิมบ้าปฏิเสธ
ไม่นานหลังจากนั้น
ราฟิกิลิงแมนดริลได้เดินทางมาพบกับซิมบ้าและโน้มน้าวให้ซิมบ้ากลับไปกู้แดน
ทรนงได้สำเร็จ โดยการพาซิมบ้าไปพบวิญญาณของมุฟาซาที่ปรากฏตนบนฟากฟ้าซิมบ้า นาลา ทีโมน และพุมบ้าได้เดินทางกลับไปผาทรนง
แล้วเข้าต่อสู้กับฝูงหมาไน
โดยมีเหล่าสิงโตที่ยังภักดีต่อมุฟาซาได้เข้าร่วมต่อสู้ ในที่สุด
ซิมบ้าก็เอาชนะสการ์ได้ ซิมบ้าจึงได้ขึ้นเป็นเจ้าป่าแห่งแดนทรนงในที่สุด
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)